แอมป์กีตาร์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท
ประเภทของแอมป์กีตาร์ไฟฟ้า ประเภทของแอมป์กีตาร์ไฟฟ้า เราสามารถแบ่งแอมป์กีตาร์ได้ทั้งจากตามคุณลักษณะภายนอก
แอมป์กีตาร์แบบคอมโบแอมป์ (Combo Amp)
ซึ่งข้อดีของแอมป์ประเภทนี้คือ มีทั้งปรีแอมป์ และลำโพง (Speaker) อยู่ในตัวเดียวกัน สะดวกเรื่องการขนย้าย ได้โทนที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละรุ่น จากการที่วิศวะกรของโรงงานเลือกใช้ปรีแอมป์ พาวเวอร์ และลำโพงสำเร็จมาจากโรงงานแล้ว

แอมป์กีตาร์แบบแยกเฮดกับคาบิเน็ต (Head&Cabinet)
แอมป์ประเภทนี้จะแยกเป็นสองส่วนคือส่วนของเฮด จะมีแค่ปรีแอมป์กับพาวเวอร์ และส่วนของคาบิเน็ตจะมีเฉพาะลำโพง
ซึ่งแอมป์ประเภทนี้พอซื้อรวมเป็นชุดจะมีราคาสูงกว่าแอมป์แบบคอมโบ แต่จะมีความหลากหลายในการใช้งานมากขึ้น เช่น เราอาจจะเอาเฮดของอีกรุ่นไปผสมกับลำโพงของอีกรุ่นก็จะได้ความหลากหลายของซาวด์มากขึ้น หรือสำหรับนักดนตรีก็สามารถยกหัวแอมป์ไปต่อกับลำโพงที่ร้านหรืองานคอนเสิร์ต ในกรณีที่เราอยากได้ซาวด์ที่คุ้นเคยได้

แบ่งตามลักษณะของปรีแอมป์
- แอมป์หลอดสุญญากาศ (Tube Valve Amp) เป็นแอมป์ประเภทแรกที่เกิดขึ้นบนโลก ว่ากันว่าน่าจะเกิดขึ้นในราวๆช่วงปี 1950 เสน่ห์ของแอมป์ประเภทนี้คือให้ความอุ่นของซาวด์ที่ดี มีมวล มีมิติ เสียงแตกที่ผ่านแอมป์หลอดสุญญากาศจะมีซัสเทนที่ยาวมีความสมู้ท ตอบสนองต่อไดนามิกได้ดี
แต่ข้อเสียคือน้ำหนักมาก เปราะบางต่อการขนย้าย และหลอดเองก็มีอายุการใช้งานที่จำกัดแต่ถึงจะมีข้อเสียที่กล่าวมา นักดนตรีหลายท่านก็ยังประทับใจในเสน่ห์ของเสียงแบบแอมป์หลอด ตัวอย่างของแอมป์ประเภทนี้ที่ยังคงได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน เช่น Fender Twin reverb ,Marshall JCM,Mesa boogie ,Vox AC30 เป็นต้น
ปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้มีการผลิตหลอดสุญญากาศขึ้นมาใหม่ ให้มีอายุการใช้งานนานขึ้น แต่คงคุณบัติเสียงแบบเดิมของหลอดไว้ วิธีสังเกตุคือ จะมีคำว่า Reissue ในชื่อรุ่นด้วย
- แอมป์ทรานซิสเตอร์ (Transister Amp) หรือ Solid State Amp คือแอมป์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ที่มีราคาถูกกว่าเข้ามาแทนแบบเดิมคือหลอดสุญญากาศ ถูกผลิตขึ้นในช่วงปี 1970
จุดเด่นของแอมป์ประเภทนี้คือ น้ำหนักเบากว่าแบบหลอด มีความผิดเพี้ยนของเสียงน้อย ให้เสียงคลีนที่ดี ถึงแม้จะอุ่นหนาสู้แบบหลอดไม่ได้ แต่ด้วยราคาที่ถูกลง และความทนทาน จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเหมาะกับทั้งคนที่เพิ่งเริ่มฝึกหัดเล่นดนตรี ไปจนถึงมือาชีพ
ตัวอย่างแอมป์ประเภทนี้ที่ได้รับความนิยมมากตั้งแต่ปี 1975 จนถึงปัจจุบันคือ Roland Jazz Chorus JC 120 นอกจากนั้นยังมีแอมป์ Solid State ราคาย่อมเยาที่เป็นที่นิยมอีกหลากหลายแบรนด์เช่น Kustom KG212FX , PeaveyBandit 112 เป็นต้น
- Hybride Amps เป็นแอมป์สมัยใหม่ที่รวมเอาข้อดีของแอมป์ทั้งสองประเภทคือ Tube Valve และ Solid State Amp เข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้วงจรปรีแอมป์เป็นหลอด ใช้พาวเวอร์เป็น Solid State ทำให้ได้โทนสดใสแบบ Solid State แต่ยังคงความหนานวลและ Distrotion แบบแอมป์หลอด มีราคาถูกลงเนื่องจากใช้หลอดน้อยลง ตัวอย่างของแอมป์ประเภทนี้ก็คือ Hughes&Kettner , Vox AC15VR เป็นต้น
- Modelling Amp หรือ Digital Amps เนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถใช้ Digital processor ในการจำลองเสียงและเอฟเฟคแบบต่างๆ
ใช้กันอย่างกว้างขวาง จึงมีการสร้างแอมป์ที่สามารถจำลองเสียงแอมป์ประเภทต่างๆขึ้น
ซึ่งนอกจากสามารถเลือกใช้เสียงได้อย่างหลากหลาย แอมป์ประเภทนี้ก็มักจะ built -in เสียงเอฟเฟคประเภทต่างๆใส่เข้ามาอย่างหลากหลาย ตัวอย่างแอมป์ประเภทนี้ก็อย่างเช่น Fender Mustang,Boss Katana Fender Champion , Line 6 Spider และอีกหลายๆแบรนด์
สุดท้ายแล้ว นักกีตาร์ทุกคนก็ยังคงมีโทนของตัวเองและเลือกแอมป์ที่มีความเหมาะสม กับแนวทางและสไตล์การเล่นของตัวเอง จึงไม่น่าแปลกที่แอมป์ในยุคตั้งแต่ 1950 จึงได้รับความนิยมมาตลอดถึงแม้จะมีแอมป์ ที่มีโทนใหม่ๆออกมา แต่นักกีตาร์แต่ละคนก็ยังเลือกใช้แอมป์ที่มีโทนในการเล่นในสไตล์ของตัวเอง