รู้จักไม้กีตาร์โปร่ง เสียงแตกต่าง ที่มาหลากหลาย เลือกให้ใช่ในแบบคุณ

เนื้อไม้ที่ใช้ทำกีตาร์โปร่ง สำรวจที่มา เสียง และเอกลักษณ์ไม้จากทั่วโลก

กีตาร์โปร่งคือเครื่องดนตรีที่เสียงของมันขึ้นอยู่กับ “ไม้” ที่นำมาสร้างแทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นไม้หน้า (Top), ไม้ด้านข้าง-ด้านหลัง (Back & Side), คอ (Neck), และฟิงเกอร์บอร์ด (Fingerboard) โดยแต่ละชนิดมีผลต่อเสียง โทน และบุคลิกของกีตาร์ตัวนั้นอย่างลึกซึ้ง นี้คือการแนะนำไม้ยอดนิยมที่ใช้ทำกีตาร์โปร่ง พร้อมที่มาและจุดเด่น

1. Spruce (สปรูซ) หน้าไม้ยอดนิยม

    • ต้นกำเนิด: เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์, แคนาดา, สหรัฐอเมริกา
    • เสียง: ใส พุ่ง ตอบสนองดี
    • ทำไมถึงเลือก: ไม้สปรูซมีอัตราส่วนแข็งแรงต่อน้ำหนักที่ยอดเยี่ยม ทำให้ส่งเสียงได้ดีโดยไม่หนักเกินไป เหมาะกับการเล่นทุกแนว ทั้งตีคอร์ดและเกา
    • สายพันธุ์ยอดนิยม
      • Sitka Spruce (จากอลาสกาและแคนาดา)
      • Engelmann Spruce (จากเทือกเขาร็อกกี้)
      • European Spruce หรือ German Spruce (จากเทือกเขาแอลป์)

2.Cedar (ซีดาร์) เสียงนุ่ม ละเมียด

    • ต้นกำเนิด: แคนาดา
    • เสียง: อบอุ่น ชัดในโทนต่ำ กลางอ่อนโยน
    • ทำไมถึงเลือก: ไม้ซีดาร์ตอบสนองการเล่นเบาได้ดีเยี่ยม นิยมในกีตาร์แนวคลาสสิกและฟิงเกอร์สไตล์ ให้ความรู้สึก “เล่นง่าย” เสียงเปิดไว
    • นิยมใช้ในกีตาร์คลาสสิก และฟิงเกอร์พิก

3. Mahogany (มะฮอกกานี) เสียงแน่น กลางเด่น

    • ต้นกำเนิด: แถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เช่น ฮอนดูรัส, บราซิล, เปรู
    • เสียง: กลางชัด หนา อบอุ่น เบสแน่น
    • ทำไมถึงเลือก: ไม้ชนิดนี้ให้เสียงมีพลังในย่านกลาง เล่นแล้ว “เสียงทะลุ” เหมาะกับสายบลูส์ โฟล์ก และการร้องเล่น
    • ใช้ได้ทั้งเป็น Top และ Back & Side

4. Rosewood (โรสวูด) เสียงกว้าง รายละเอียดชัด

    • ต้นกำเนิด

      • Indian Rosewood: อินเดีย
      • Brazilian Rosewood: บราซิล
    • เสียง: ย่านเบสลึก เสียงแหลมคมชัด มีย่านเสียงกว้าง
    • ทำไมถึงเลือก: เป็นไม้หรู ให้คาแรกเตอร์เสียงที่ “ครบ” ทั้งอบอุ่นและเปิด ทำให้เสียงกีตาร์ “หรูหรา” เหมาะกับกีตาร์ระดับกลางถึงสูง

5. Koa (โคอา) ลายสวย เสียงหวาน

    • ต้นกำเนิด: ฮาวาย
    • เสียง: ชัดเจนในกลาง-แหลม มีความสว่างและหวาน
    • ทำไมถึงเลือก: นอกจากลายที่สวยโดดเด่นแล้ว โคอายังให้เสียงที่มี “บุคลิก” เฉพาะตัว เป็นที่นิยมในกีตาร์ Custom หรือสายฟิงเกอร์สไตล์

6. Maple (เมเปิ้ล) โปร่ง ใส คม

    • ต้นกำเนิด: สหรัฐอเมริกา, แคนาดา
    • เสียง: ใส เคลียร์ มีความคม เสียงก้องน้อย
    • ทำไมถึงเลือก: เหมาะกับนักดนตรีที่ต้องการเสียงโปร่งชัดในทุกตัวโน้ต รวมถึงเหมาะกับกีตาร์ที่ต้องการความคมในเวที เช่นกีตาร์แจ๊ส

7. Sapele (ซาเปเล่) ทางเลือกใหม่ของมะฮอกกานี

    • ต้นกำเนิด: แอฟริกาตะวันตก
    • เสียง: คล้ายมะฮอกกานี แต่สว่างกว่าเล็กน้อย
    • ทำไมถึงเลือก: เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่า มีคุณสมบัติใกล้เคียง Mahogany แต่ราคาย่อมเยาและหาได้ง่ายขึ้น

8. Ziricote (ซีริโคเต้) ลายดุดัน เสียงหนา

    • ต้นกำเนิด: เม็กซิโก, อเมริกากลาง
    • เสียง: หนา มีย่านเบสดี รายละเอียดชัด
    • ทำไมถึงเลือก: ลายไม้ที่ดูหรูหราให้เอกลักษณ์เฉพาะตัว เสียงเข้ม เหมาะกับคนที่ชอบกีตาร์บุคลิกหนักแน่นและล้ำค่า

9. Cocobolo (โคโคโบโล) หรูหรา หนักแน่น

    • ต้นกำเนิด: อเมริกากลาง เช่น คอสตาริกา, นิการากัว
    • เสียง: เบสลึก รายละเอียดเยอะ เสียงเต็ม
    • ทำไมถึงเลือก: เป็นไม้หายาก ให้เสียงสไตล์ Rosewood ที่ลึกและเต็มมากขึ้น นิยมในกีตาร์ Custom และ High-End

10. Walnut (วอลนัท) กลางนุ่ม รายละเอียดดี

    • ต้นกำเนิด: สหรัฐอเมริกา
    • เสียง: คล้าย Mahogany แต่เปิดมากกว่า
    • ทำไมถึงเลือก: เป็นตัวกลางระหว่าง Mahogany และ Rosewood ทั้งในเรื่องเสียงและราคา ให้เสียงที่ “บาลานซ์” และคมพอประมาณ

การเลือกไม้กีตาร์ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่เป็นการเลือก “บุคลิกเสียง” ของเครื่องดนตรีด้วย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรลองฟังและสัมผัสด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้กีตาร์ที่ตรงกับสไตล์การเล่น และรสนิยมเสียงของคุณมากที่สุด

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ “นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”