กีตาร์คลาสสิค แตกต่างกันอย่างไร ?
กีต้าร์ทั้ง 2 ชนิดนี้ มีรูปร่างที่คล้ายคลึงกันจนคนส่วนใหญ่คิดว่ามันคือกีต้าร์ชนิดเดียวกัน แต่ถ้าหากสังเกตดีๆ จะมีจุดที่เป็นความแตกต่างกันอยู่หลายจุด มาลองดูความแตกต่างของ กีต้าร์โปร่ง และกีต้าร์คลาสสิค ที่มีลักษณะเด่นๆ สามารถสังเกตได้แบบง่ายๆ
1.เฟรท
ช่องแต่ละช่องระหว่างเฟรทของกีตาร์คลาสสิคจะมีความกว้างกว่ากีตาร์โปร่ง และกีตาร์คลาสสิคจะไม่มี fret markers ซึ่งมีลักษณะเป็นจุด ติดไว้ในช่องต่างๆระหว่างเฟรทเพื่อบ่งบอกตัวโน้ตต่าง ๆ และ Inlay ในกีตาร์คลาสสิคจะไม่มี In-lay ตกแต่ง ซึ่งจัแตกต่างกับกีตาร์โปร่งที่จะมีลวดลายของ In-lay ตกแต่งที่ Fingerboard
2. รูปทรง
กีตาร์โปร่งจะมีลักษณะหลากหลายรูปทรงตัวอย่างเช่นทรง D (Dreadnought) , GA (Grand Auditorium) , OM , P(Parlor), J (Jumbo) เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกว่ากีตาร์คลาดสิคที่จะมีแค่รูปทรงเดียว คือรูปทรงทจะมีความคล้ายกับกีตาร์โปร่งรูปทรง OM
3. สายกีตาร์
กีตาร์คลาสสิคจะใช้สายเอ็น ซึ่งให้เสียงที่นุ่มนวลกว่า ละมุน เหมาะกับการเล่นเพลงบรรเลงเป็นต้น ส่วนกีตาร์โปร่งจะใช้สายเหล็กหรือสายลวด จึงทำให้เสียงที่ออกมานั้น ฟังดูสดใสและดังกังวาลกว่ากีตาร์คลาสสิค โดยส่วนใหญ่กีตาร์โปร่งจะใช้เล่นแบบตีคอร์ดกำกับจังหวะ
4. Bridge
มาในส่วนของสะพานสายของกีตาร์ทั้งสองแบบ กีตาร์โปร่งทั่วไป สะพานสายจะมีหมุดสีขาวปักยึดกับสายลวดของกีตาร์ แต่ถ้าเป็นในส่วนของกีตาร์คลาสสิค สะพานสายจะไม่มีหมุดยึดแบบกีตาร์โปร่งปกติทั่วๆไป แต่จะใช้การพันหรือมัดสายไว้กับตัวสะพานสายแทน
5.ความแตกต่างของ Bracing กีตาร์คลาสสิค และ กีตาร์โปร่ง
กีต้าร์อะคูสติกจะมีไม้หน้าที่บางมาก เราจึงต้องติดแท่งไม้หรือที่เรียกว่าโครงสร้างภายใน (Bracing) ภายในตัวกีต้าร์เพื่อเสริมความแข็งแรง ไม่ให้ไม้หน้าหักงอหรือแตกร้าวเมื่อเจอแรงดึงจากสายกีต้าร์ ไม้หน้าเป็นแหล่งกำเนิดเสียงที่สำคัญของกีต้าร์ การติดโครงสร้างภายในเข้ากับไม้หน้าจะเปลี่ยนรูปแบบการสั่นสะเทือนของไม้หน้า และมีผลต่อเนื่องไปถึงเสียงของกีต้าร์
นอกจากจะมีผลต่อโครงสร้างโดยรวมแล้ว รูปแบบโครงสร้างภายในยังมีผลต่อโทนเสียงของกีต้าร์อย่างมาก องค์ประกอบที่ปรับเปลี่ยนได้ในโครงสร้างภายในมีทั้งรูปทรง ขนาด โครงร่าง และการจัดวางไม้แต่ละแท่ง (ใต้ไม้หน้าของกีต้าร์อะคูสติกอาจมีโครงไม้ติดอยู่มากกว่า 10 แท่ง) การผสมผสานขององค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้อาจเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้กีต้าร์แต่ละตัวมีเอกลักษณ์ต่างกันไป
เดิมที การออกแบบโครงสร้างภายในจะใช้การลองผิดลองถูก ช่างทำกีต้าร์จะค่อยๆ ปรับเค้าโครง ขึ้นรูป และตัดแต่งโครงสร้างจนกว่าจะได้เสียงที่ไพเราะ แล้วอาศัยประสบการณ์ตัดสินใจว่าโครงสร้างแข็งแรงพอที่จะรองรับไม้หน้าได้ตลอดหลายปีหรือไม่
6.กีตาร์สองแบบนี้ เหมาะกับการใช้งานประเภทไหน??
กีตาร์คลาสสิค แบบนี้เกิดมาเพื่อดนตรีแนวเก่าแก่คลาสสิคที่ใช้นิ้วมือขวา (หรือซ้ายถ้าถนัดซ้าย) เล่นทุกไลน์ของเพลงด้วยกีตาร์เพียงตัวเดียว ฟิงเกอร์บอร์ดจึงกว้างมากเพื่อให้นิ้วมีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวเยอะๆ กีตาร์แบบนี้ใช้สายไนลอนหรือสายเอ็นขึงแทนสายโลหะ การใช้สายเอ็นให้โทนเสียงที่มีความกลม นุ่มนวล ดีดโน้ตสูงแค่ไหนก็ไม่มีโทนเสียงแหลมบาดหู
กีตาร์โปร่ง ประเภทนี้เป็นกีตาร์ที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เนื่องจากใช้งานได้กว้าง เล่นได้หลายสไตล์ เกาก็ได้ ตีคอร์ดก็สนุก มีความคมใสมากกว่ากีตาร์สายเอ็น ราคาก็มีหลากหลายสามารถซื้อหามาเล่นกันได้ตั้งแต่หลักพันบาทจนไปถึงหลักแสนหลักล้าน เสียงจากกีตาร์โปร่งในเพลงที่เราเคยๆฟัง ส่วนใหญ่ก็มักใช้กีตาร์ประเภทนี้เล่น
เครดิต : @thaipianist , thebandmusicschool.com , www.bigtone.in.th
#กีตาร์คลาสสิค #kazuki #กีตาร์โปร่ง #กีตาร์ #กีต้าร์ #Guitar #ร้านขายเครื่องดนตรี #คลาสสิค #Venus #Acousticguitar